xAI ได้เปิดตัวโมเดล AI รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Grok 3 ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของวงการ AI โดย Elon Musk และทีมวิศวกร xAI ประกาศว่า Grok 3 มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า Grok 2 ถึงหนึ่งระดับความแรง หรือพูดง่ายๆ คือแรงขึ้นประมาณสิบเท่า
โครงสร้างเบื้องหลัง Grok 3: ศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์และซูเปอร์คอมพิวเตอร์
หนึ่งในความลับที่ทำให้ Grok 3 มีพลังมหาศาลคือการเทรนโมเดลนี้ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ซึ่งมี GPU (หน่วยประมวลผลกราฟิก) กว่า 200,000 ตัวทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เปรียบเสมือนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีชื่อเล่นว่า “Colossus” ซึ่ง Elon Musk เชื่อว่าการใช้โครงสร้างพื้นฐานนี้คือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ Grok 3 มีศักยภาพสูงมาก

Grok 3 แข่งขันกับ AI ชั้นนำของโลกได้อย่างไร?
เมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับโลกอย่าง GPT-4o ของ OpenAI, Gemini ของ Google และโมเดลจาก DeepSeek ที่เป็นบริษัท AI จากจีน Grok 3 สามารถทำคะแนนได้ดีกว่าในหลายด้าน เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การเขียนโค้ด และการแก้ปัญหาซับซ้อน
ตัวอย่างเช่น Grok 3 สามารถทำคะแนนได้ดีเยี่ยมใน AIME (การแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับสูง) และ GPQA ซึ่งเป็นชุดคำถามระดับปริญญาเอกในวิชาฟิสิกส์ ชีววิทยา และเคมี นอกจากนี้ โมเดล Grok 3 ขนาดเล็กกว่ายังได้อันดับสูงใน “Chatbot Arena” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้ใช้โหวตว่ารุ่นไหนทำงานได้ดีกว่าในการสนทนาแบบเรียลไทม์

ครอบครัว Grok 3: หลายรุ่น เพื่อตอบโจทย์ที่หลากหลาย
Grok 3 ไม่ใช่โมเดลเดียว แต่เป็นชุดโมเดลที่ประกอบด้วยรุ่นต่างๆ ได้แก่ Grok 3 Reasoning, Grok 3 Mini Reasoning, Grok 3 รุ่นมาตรฐาน และรุ่น Mini เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความซับซ้อนและประสิทธิภาพแตกต่างกัน
โดยเฉพาะรุ่น Reasoning ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ “Chain of Thought Prompting” หรือการคิดแบบเป็นขั้นตอน ซึ่งช่วยให้ AI สามารถอธิบายหรือจัดโครงสร้างความคิดของตัวเองก่อนตอบคำถาม ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการการวิเคราะห์และแก้ปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม xAI ได้ปกป้องบางส่วนของกระบวนการคิดนี้ไม่ให้ถูกถอดรหัส (Distillation) ซึ่งเป็นเทคนิคที่นักพัฒนารายอื่นใช้เพื่อดึงความรู้จากโมเดลที่มีอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่สามารถเข้าถึงรายละเอียดกระบวนการคิดของ Grok ได้ทั้งหมด

ฟีเจอร์ใหม่ใน Grok 3 และการเข้าถึง
Grok 3 ถูกผนวกเข้ากับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X (เดิมคือ Twitter) และยังมีเว็บไซต์เฉพาะทางที่ grok.com รวมถึงแอปบน iOS สำหรับผู้ที่สมัครสมาชิก X Premium Plus จะได้รับสิทธิ์เข้าถึง Grok 3 ทันที
นอกจากนี้ยังมีบริการชั้นพรีเมียมใหม่ที่ชื่อว่า Super Grok ซึ่งให้ฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น:
- Deep Search: เครื่องมือค้นคว้าขั้นสูงที่สแกนข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและข้อมูลใน X เพื่อสรุปรายละเอียดที่ลึกซึ้งและแม่นยำ ผู้ใช้งานสามารถจำกัดแหล่งข้อมูลเฉพาะตามต้องการได้
- Big Brain Mode: โหมดที่บอกให้ Grok 3 ใช้เวลาคิดนานขึ้นเพื่อให้คำตอบที่ละเอียดและครอบคลุม เหมาะสำหรับคำถามวิทยาศาสตร์หรือการเขียนโค้ดที่ซับซ้อน
- Voice Mode (กำลังจะมา): โหมดสั่งงานด้วยเสียงที่ช่วยให้โต้ตอบกับ Grok 3 ผ่านคำสั่งเสียงและรับคำตอบด้วยเสียงสังเคราะห์ เช่นเดียวกับระบบ AI อื่นๆ ในตลาด

การสาธิตและตัวอย่างการใช้งาน
ในงานสาธิต xAI แสดงให้เห็นว่า Grok 3 สามารถวางแผนภารกิจอวกาศสมมติจากโลกไปดาวอังคารได้อย่างละเอียด ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจอวกาศของ Musk อย่าง SpaceX นอกจากนี้ยังสามารถเขียนโค้ดเกมที่เป็นการผสมผสานระหว่าง Tetris และ Bejeweled ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
อีกหนึ่งความสามารถที่น่าประทับใจคือการแก้โจทย์คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ขั้นสูงแบบเรียลไทม์ รวมถึงการสร้างและวิเคราะห์ภาพ ซึ่งทำให้ Grok 3 มีฟีเจอร์มัลติโมดอล (Multimodal) เทียบเท่ากับ GPT-4 หรือ Google Gemini

การแข่งขันและความขัดแย้งในวงการ AI
การเปิดตัว Grok 3 สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่รุนแรงในวงการ AI ระหว่าง xAI และ OpenAI โดยเฉพาะหลังจาก Elon Musk ฟ้องร้อง OpenAI ว่าละเมิดหลักการก่อตั้งองค์กร และเสนอซื้อฝ่ายไม่แสวงหากำไรของ OpenAI ด้วยมูลค่ากว่า 97.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ข้อเสนอนี้ถูกปฏิเสธโดย Sam Altman CEO ของ OpenAI
ทั้งสองบริษัทยังอยู่ระหว่างการระดมทุนครั้งใหญ่ โดย Musk ต้องการเงินลงทุน 10 พันล้านดอลลาร์สำหรับ xAI เพื่อผลักดันมูลค่าบริษัทถึง 75 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ OpenAI มีแผนระดมทุนสูงถึง 40 พันล้านดอลลาร์ โดยอาจมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 300 พันล้านดอลลาร์

คู่แข่งรายอื่นและยุทธศาสตร์การเปิดซอร์ส
นอกจาก OpenAI และ Google แล้ว xAI ยังต้องจับตามอง DeepSeek บริษัท AI จากจีนที่เพิ่งเปิดซอร์สโมเดล R1 ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาแข่งขันในสนามนี้ได้ง่ายขึ้น
ในทางกลับกัน Elon Musk ประกาศว่า xAI จะเปิดซอร์ส Grok 2 เมื่อ Grok 3 มีความเสถียรและพร้อมใช้งานเต็มที่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นี่เป็นแนวทางที่ xAI ใช้ในการปล่อยเทคโนโลยีเก่าเมื่อมีรุ่นใหม่พร้อมแล้ว
ค่าใช้จ่ายและการแข่งขันเพื่อโครงสร้างพื้นฐาน AI
การสร้างและเทรนโมเดลขนาดใหญ่เช่น Grok 3 มีค่าใช้จ่ายสูงมาก xAI กำลังเจรจาข้อตกลงกับ Dell Technologies เพื่อจัดหาเซิร์ฟเวอร์สำหรับ AI มูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีบริษัทใหญ่ๆ เช่น SoftBank, Oracle, MGX จากอาบูดาบี และ OpenAI ที่ร่วมกันวางแผนลงทุนรวมกันเกือบ 100 ถึง 500 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา
นี่คือตัวอย่างการแข่งขันด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เข้มข้นในยุค AI ซึ่งแต่ละองค์กรพร้อมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อให้ได้มาซึ่งความได้เปรียบทางเทคโนโลยี

ท่าทีและความเป็นกลางทางการเมืองของ Grok 3
จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Grok คือการมีความเป็น “unfiltered” หรือไม่ถูกกรองมากนัก เพราะ Musk เคยสัญญาว่า Grok จะสามารถตอบคำถามในประเด็นที่ AI อื่นๆ มักหลีกเลี่ยง อย่างไรก็ตาม Grok และ Grok 2 ยังมีข้อจำกัดในบางเรื่อง โดยเฉพาะคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือประเด็นถกเถียง ซึ่ง Musk ให้เหตุผลว่าเป็นผลจากชุดข้อมูลที่ใช้เทรนซึ่งมีอคติในตัวเอง และ xAI กำลังพยายามผลักดันโมเดลให้มีความเป็นกลางทางการเมืองมากขึ้น
สำหรับ Grok 3 ยังต้องจับตามองว่าจริงๆ แล้วโมเดลนี้จะสามารถรักษาความเป็นกลางได้มากแค่ไหน เพราะผู้ใช้และนักวิจารณ์ทั่วโลกต่างรอทดสอบอย่างใกล้ชิด

การรองรับแพลตฟอร์มและการอัปเดตอย่างรวดเร็ว
แฟนๆ ระบบ Android อาจรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่แอป Grok ยังมีให้ใช้งานเฉพาะบน iOS เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ Grok ผ่านแอป X บน Android ได้ โดยยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการว่ารุ่นแยกสำหรับ Android จะเปิดตัวเมื่อใด
น่าสนใจว่า xAI มีการอัปเดตและปรับปรุง Grok ทุกวัน และ Elon Musk ระบุว่าอาจเห็นความเปลี่ยนแปลงในการทำงานของ Grok ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งรวดเร็วมากเมื่อเทียบกับโมเดล AI ขนาดใหญ่ทั่วไป

การใช้งานในภาคธุรกิจและ API สำหรับองค์กร
อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของ Grok 3 คือการขยายเข้าสู่ตลาดองค์กร โดยในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า xAI จะปล่อย API สำหรับ Grok 3 ให้บริษัทใหญ่ๆ นำไปใช้งานในระบบของตัวเองได้
การใช้งานที่คาดว่าจะได้รับความนิยมสูง ได้แก่ การเขียนโค้ดอัตโนมัติ การตรวจสอบข้อผิดพลาดในการเขียนโปรแกรม การตรวจจับการฉ้อโกง การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง รวมถึงการวินิจฉัยทางการแพทย์ (ในกรณีที่ผ่านการรับรองทางกฎหมายและข้อบังคับ)

ศัพท์เทคนิคที่ควรรู้
- GPU (Graphics Processing Unit): หน่วยประมวลผลที่ออกแบบมาเพื่อประมวลผลภาพและข้อมูลจำนวนมากพร้อมกัน ใช้ในงานเทรน AI เพื่อเพิ่มความเร็ว
- Chain of Thought Prompting: เทคนิคที่ช่วยให้ AI คิดและอธิบายขั้นตอนการแก้ปัญหาเหมือนกับการคิดเป็นลำดับขั้นตอนของมนุษย์
- Distillation: วิธีการดึงความรู้จากโมเดลขนาดใหญ่ไปยังโมเดลขนาดเล็ก เพื่อให้โมเดลเล็กเรียนรู้ความสามารถของโมเดลใหญ่ได้
- Multimodal AI: AI ที่สามารถเข้าใจและประมวลผลข้อมูลหลายประเภท เช่น ข้อความ ภาพ และเสียง พร้อมกัน
บทสรุปจาก Insiderly
Grok 3 คืออีกหนึ่งความก้าวหน้าที่สำคัญในวงการ AI ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการทุ่มเททรัพยากรและเทคโนโลยีระดับสูงจาก xAI ภายใต้การนำของ Elon Musk การที่ Grok 3 สามารถเอาชนะคู่แข่งหลักอย่าง GPT-4o และ Gemini ในหลายด้าน เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของโมเดลนี้ในด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการเขียนโค้ด
ฟีเจอร์อย่าง Deep Search และ Big Brain Mode ตอกย้ำความตั้งใจของ xAI ที่จะสร้าง AI ที่ไม่เพียงแค่ตอบคำถามพื้นฐาน แต่ยังช่วยแก้ปัญหาซับซ้อนและให้ข้อมูลเชิงลึกได้อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดี ความท้าทายที่ยังต้องจับตาคือการรักษาความเป็นกลางทางการเมืองและการเปิดเผยกระบวนการคิดภายในของ AI ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้ในระยะยาว
ในแง่ของตลาดและธุรกิจ Grok 3 พร้อมจะเข้ามามีบทบาทอย่างมากผ่านการเปิด API สำหรับองค์กร และการผนวกเข้ากับแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง X ซึ่งจะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักพัฒนาและบริษัทที่ต้องการใช้ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพ
โดยรวมแล้ว Grok 3 ไม่ใช่แค่ AI รุ่นใหม่ แต่เป็นสัญญาณของการแข่งขันที่ดุเดือดและการเร่งสร้างนวัตกรรมในวงการ AI ที่เราควรจับตามองอย่างใกล้ชิดในอนาคต