Skip to content
1 min read Generative AI

Ubie’s Generative AI: พลิกโฉมวงการสุขภาพด้วย AI เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์

โลโก้ Ubie และภาพรวมบริษัท

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การนำ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาช่วยงานในวงการสุขภาพไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป “Ubie” สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีสุขภาพจากญี่ปุ่นที่ก่อตั้งมากว่า 7 ปี ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า AI สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของผู้ป่วยและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างแท้จริง

โลโก้ Ubie และภาพรวมบริษัท

จุดเริ่มต้นของ Ubie และแรงบันดาลใจในการใช้ AI

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ Ubie ผู้ก่อตั้งเคยทำงานเป็นแพทย์ประสาทวิทยา (Neurologist) มาก่อน โดยมีความตั้งใจจะทุ่มเทเวลาให้กับผู้ป่วยอย่างเต็มที่ แต่กลับพบว่าต้องเจอกับภาระงานเอกสารและหน้าที่ทางคลินิกที่ล้นมือ บางส่วนยังต้องทำด้วยมือซึ่งกินเวลามาก จนกระทั่งได้รู้จักกับ Ubie ที่ใช้ AI เป็นแกนหลักในการแก้ปัญหาเหล่านี้ จึงตัดสินใจเข้าร่วมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงการสุขภาพ

Ubie พัฒนาเครื่องมือที่ใช้ AI ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตอบแบบสอบถามที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด เพื่อนำทางไปยังผู้ให้บริการสุขภาพที่เหมาะสมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมกันนี้ยังมีระบบสำหรับโรงพยาบาลและคลินิกที่ใช้เทคโนโลยีของ Google Cloud’s Vertex AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์กว่า 1,800 แห่งทั่วญี่ปุ่น

อินเทอร์เฟซ AI สำหรับผู้ใช้และโรงพยาบาล

ความสำคัญของประสิทธิภาพในระบบสุขภาพญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เผชิญกับปัญหาประชากรสูงวัยและจำนวนแรงงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การรักษาความสมดุลในระบบสุขภาพเป็นเรื่องท้าทาย การหาบุคลากรฝ่ายบริหารและงานเอกสารโดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทยิ่งเป็นเรื่องยาก ส่งผลให้โรงพยาบาลต้องเผชิญกับความกดดันในการบริหารจัดการ

Ubie จึงมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ลดเวลาที่ใช้กับงานเอกสารและเพิ่มเวลาที่มีคุณภาพในการดูแลผู้ป่วย โดยเน้นการใช้งานจริงในสถานพยาบาล ไม่ใช่แค่การวิจัยหรือทฤษฎีเท่านั้น

เทคโนโลยี Generative AI ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ

Ubie ใช้ Generative AI รวมถึงโมเดล Gemini จาก Google เพื่อสร้างเครื่องมือที่ช่วยงานด้านเอกสารทางการแพทย์ให้รวดเร็วและง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการป้อนข้อมูลแบบข้อความ เสียง หรือภาพ ซึ่งครอบคลุมการใช้งานหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันบนมือถือที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง AI ได้โดยตรงและเชื่อมต่อกับระบบบันทึกสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EHR) ได้อย่างราบรื่น

การใช้งาน AI ผ่านมือถือและการเชื่อมต่อกับระบบ EHR

ตัวอย่างการใช้งานจริงในโรงพยาบาลญี่ปุ่น

พยาบาลใช้ AI ช่วยเขียนรายงานการจำหน่ายผู้ป่วย

ผลกระทบเชิงบวกต่อคุณภาพการดูแลผู้ป่วย

การปรับปรุงกระบวนการทำงานด้วย AI ไม่เพียงแต่ช่วยลดเวลาที่ใช้กับงานเอกสาร แต่ยังทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีเวลามากขึ้นในการดูแลและพูดคุยกับผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพ ซึ่งส่งผลให้การรักษามีประสิทธิภาพและความพึงพอใจของผู้ป่วยเพิ่มขึ้น นี่คือเป้าหมายหลักที่ Ubie ต้องการให้เกิดขึ้นในระบบสุขภาพ

แพทย์ใช้เวลามากขึ้นกับผู้ป่วยหลังใช้ AI

เทคนิคและความหมายของศัพท์เฉพาะในบทความ

  1. Generative AI: เทคโนโลยี AI ที่สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ หรือเสียง โดยอิงจากข้อมูลที่ได้รับการเทรนมา
  2. Google Cloud’s Vertex AI: แพลตฟอร์มคลาวด์ของ Google ที่ช่วยในการพัฒนาและปรับใช้โมเดล AI ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  3. EHR (Electronic Health Record): ระบบบันทึกข้อมูลสุขภาพผู้ป่วยแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ช่วยให้ข้อมูลถูกจัดเก็บและเข้าถึงได้อย่างปลอดภัยและสะดวก
  4. Burnout: ภาวะหมดไฟหรือความเครียดสะสมจากการทำงานที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและประสิทธิภาพในการทำงาน

บทสรุปจาก Insiderly

Ubie คือหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำ AI มาใช้แก้ปัญหาที่แท้จริงในวงการสุขภาพ ไม่ใช่แค่การวิจัยหรือทดลอง แต่เป็นการใช้งานจริงในโรงพยาบาลที่มีผลลัพธ์วัดได้ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ การลดภาระงานเอกสารและการเพิ่มเวลาที่มีคุณภาพในการดูแลผู้ป่วย คือกุญแจสำคัญในการพัฒนาระบบสุขภาพที่ยั่งยืน

การใช้ Generative AI และเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Google Cloud’s Vertex AI ทำให้ Ubie สามารถตอบโจทย์ความท้าทายในระบบสุขภาพญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญกับปัญหาประชากรสูงวัยและแรงงานลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือแนวทางที่วงการสุขภาพทั่วโลกควรจับตามอง และอาจนำไปประยุกต์ใช้ในประเทศอื่น ๆ ที่มีความท้าทายคล้ายคลึงกัน

ในอนาคต AI จะไม่ใช่แค่เครื่องมือช่วยงานเอกสารเท่านั้น แต่จะกลายเป็นผู้ช่วยสำคัญที่ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถมอบการดูแลที่ดีที่สุดให้กับผู้ป่วยได้อย่างแท้จริง